ผมเปิดตู้เย็น ... หยิบน้ำหนึ่งเหยือก ...
รินมันบนแก้วอย่างไม่สนแสสายน้ำ ... กระดกมันเข้าปากเพื่อดับกระหาย ...
กลับมานั่งที่เก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์
วันนี้ว่างมากครับ ... ดาว์นโหลดสารคดีมาดูเรื่องนึงครับ
จะมีสิ่งใดในโลกที่คนอย่างเราไม่รู้บ้าง ?
เยอะไปครับ
เยอะเสียจนเก็บมาคิดก็ไม่ได้รู้สึกอะไรดี
มีอะไรบ้างที่ผมเพิ่งรู้
เ
กาหลีเหนือ ... อุณหภูมิลบสิบองศา ...
เด็กหญิงคนหนึ่งจุงคุณแม่เร่เข้ามารวมกับประชากรหมู่บ้านร้อยกว่าคน
หลังจากได้ยินสัญญาณโทรโข่งจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล
เด็กๆตื่นเต้นและสนใจมากว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
เธอยื่นหน้าแหวกฝูงชนออกไปดู .... เห็นพ่อของเธอถูกมัดอยู่กับเสาไม้
แม่ของเธอซึ่งแหวกฝูงชนสำเร็จเห็นภาพเดียวกับที่เธอเห็น
"
เราไม่นำท่านมากล่าวอ้างเด็ดขาด ... ท่านเป็นผู้มีคุณธรรมและ
จรรโลงให้เราได้มีความสุขเสมอมา ... ใครก็ตามที่คิดไม่ดีต่อท่าน ...
เราจะให้เค้ามีชีวิตอยู่ต่อไปหรือ ?"
เสียงก่นด่าเซ็งแซ่กึกก้องบริเวณ ... ชาวบ้านร้อยกว่าคนหยิบก้อนหินก้อนกรวดปาใส่พ่อของเธอจนฟกช้ำไปทั่วร่างกาย
สัญญาณตะโกนดังกึกก้องหุบเขาหิมะซึ่งห้อมล้อมหมู่บ้านคอมมูน ทหารสามคนตรงหน้าคุณพ่อยกปืนไรเฟิลขึ้นประทับบ่า
แม่ของเธอวิ่งออกไปห้ามแต่ถูกทหารสองคนยึดแขนไว้ไม่ให้ขยับตัวได้
"ยิง !"
เสียงปืนดังขึ้นตรุด ตุด ตุด
ร่างของบิดาเด็กน้อยร่วงลงสู่พื้น
"ยิง !"
ตรุด ตุด ตุด
เลือดคั่งออกมาจากร่างอันผอมแห้งไม่มีแม้แต่แรงจะเดิน
"ยิง !"
ตรุด ตุด ตุด
หัวของเค้าแหลกละเอียดชุ่มโชกไปด้วยเลือด
เสียงปรบมือดังกึกก้องราวกับว่าเทศกาลแห่งความสุขจบลงอย่างสดุดี
แม่ของเธอถูกลากเข้าไปในบ้านพักทหารใกล้เคียง .... เธอพยายามอย่างสิ้นสุดกำลังอันน้อยนิดที่จะร้องเรียกลูกน้อยของเธอ
แม่ของเธอไม่ได้เรียกชื่อเรียกอะไรทั้งสิ้น
เธอเพียงแค่ย้ำเตือนคำสอนสุดท้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"จงมีชีวิตอยู่ต่อไป ..... จงมีชีวิตอยู่ต่อไป"
หลายสิบปีให้หลัง เธอโตขึ้นมาแก่กล้า แก้มตอบ ... แขนขาแม้ซูบผอมแต่ก็มีกล้ามเนื้อซึ่งบริบูรณ์จากการทำงานอย่างโชกโชน
กลางค่ำคืนพระจันทร์เสี้ยวบางๆ ... ชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ
เธอยืนอยู่ในแม่น้ำที่แข็งปานห้องแช่แข็งของโรงครัวทหาร
น้ำไหลเชี่ยวกรากในระดับอกของเธอ ผมเปียสองข้างนั้นลอยลู่ไปกับกระแสน้ำ
ในเงามืดนั้นมีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากพุ่มไม้ลงมาในน้ำ .... ยื่นกล้องวิดิโอ และบุหรี่สองกล่อง
"เราจะออกไปด้วยกันหลังจากนี้ ... ฉันสัญญา" ชายคนนั้นกล่าว ... เสียงแผ่วเบาดั่งเสียงใบไม้ลู่ลม
"ฉัน รัก เธอ" หญิงสาวสวมกอดชายคนนั้น
"เราจะแต่งงานกันนะ .... รีบทำงานให้เสร็จแล้วมาอยู่ด้วยกัน" ชายหนุ่มผลักหญิงคนนั้นออกไปแล้วสาวเท้าข้ามแม่น้ำ
เสียงตะโกนภาษาจีนดังขึ้นทางอีกฝั่งของแม่น้ำ .... มีเสียงวิ่งซอกแซกๆเป็นเวลาหลายนาที ก่อนจะจบลงที่เสียงปืนดังอุตลุต
และความเงียบก็เข้าปกคลุม
เธอหลับตาลงเป็นการไว้อาลัยคนที่เธอรักคนสุดท้าย ...
เ
ธอเดินกระหย่องกระแหย่งกลับมาขึ้นฝั่ง ...
นำบุหรี่สองกล่องมอบให้นายทหารตระเวนชายแดนเป็น ค่าสินบน
และเริ่มออกเดินทางทั่วเกาหลีเหนือ
ภาพเด็กชายที่พยายามขโมยกระเป๋าเงินจากป้าคนหนึ่งแต่ถูกจับได้และโดนทำโทษโดยการทำร้ายร่างกาย
ภาพทหารลากชายต้องสงสัยขึ้นรถทหาร
ภาพคนนอนตายทั่วเมืองซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตในเมือง
ภาพคนก้มลงเก็บเศษเมล็ดพืชที่ร่วงลงมาจากช่องไม้ในขบวนรถไฟขนสินค้าที่จอดเทียบชานชลา
ภาพของกลุ่มต่อต้านท่านผู้นำประเทศติดโปสเตอร์ด่าทอรัฐบาลเผด็จการ
เธอบันทึกมันไว้หมดราวกับวิดิโอม้วนนั้นคือความทรงจำของเธอเองก็มิปาน
เธอนั่งรถไฟเที่ยวสุดท้ายไปที่พรมแดนอีกครั้ง .... พร้อมที่จะนำวิดิโอเทปออกไปเผยแพร่ให้โลกได้รับรู้
เที่ยงคืน .... มีคนมารอเธอ ณ ที่แห่งเดิมกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก
หิมะตกปรอยพร้อมหมอกที่หนาแน่น
หญิงสาวก้าวเดินไปข้างหน้า ... ใจของเธอนั้นอยู่ในประเทศจีน ... มือของเธอกุมกระเป๋าใส่กล้องวิดิโอไว้แน่น
ร่างของชายสามสี่คนปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอ ... และเห็นชัดขึ้นเมื่อชายทั้งสามคนเดินมาใกล้เธอมากขึ้น
พวกเขาเหล่านั้นเป็นทหารพิเศษของเกาหลีเหนือ
ทหารพากันมาสมทบเรื่อยๆ หิมะเบาบางลงพร้อมกับหมอกที่ค่อยๆจางหายไป
ในที่สุดเธอก็ค้นพบว่ามีทหารสามสิบคนล้อมรอบเธออยู่
เธอปล่อยกระเป๋าลงจากมือ ยืนทื่อๆไม่มีความรู้สึกใด
นายทหารยิ้มย่องเหมือนกับสุนัขได้กระดูกชิ้นใหม่
ใ
นราตรีนั้นเธอถูกเปลื้องผ้าในอุณหภูมิลบสิบองศา ถูกชำเราโดยทหารสามสิบคน
ก่อนที่จะจบลงด้วยการจ่อยิงศรีษะจนเลือดและสมองเจิ่งนองตัดสีหิมะอันขาวสะอา
ด
ยังไม่พอหรอกครับ ....
นายทหารคนหนึ่งนำกล้องวิดิโอออกมาจากกระเป๋าของเธอ ...
บันทึกภาพการชำเราหมู่ที่ทารุณและโหดร้ายที่สุดนับแต่มีมนุษย์ชาติขึ้นมาลงบ
นกล้องวิดิโอ
เธอถูกตบ ถูกจิกผม ถูกกรีดด้วยดาบปลายปืน
ถูกทุบด้วยส้นรองเท้าบูททหาร ถูกพานท้ายปืนตีแสกหน้า
หิมะหนาวสะท้านกัดกร่อนร่างของเธอจนเป็นแผลเลือดซืมไหลอยู่ทุกอณูของรูขุมขน
เลือดไหลจนกระทั่งกลายเป็นเพียงน้ำหนองเหลืองใสไหลออกมาจากผิวหนัง
ไ
ม่มีความรู้สึกใดๆ ออกมาจากสีหน้าของหญิงสาว ...
มีเพียงแต่เลือดสีแดงสดที่ไหลออกมา
เพื่อย้ำเตือนหล่อนว่ายังมีชีวิตและลมหายใจอยู่จนกระทั่ววินาทีที่เสียงปืนด
ังขึ้น ... มีเพียงเสียงของแม่เธอที่ก้องอยู่ในหัว
"จงมีชีวิตอยู่ต่อไป ... จงมีชีวิตอยู่ต่อไป"
ปัง! ... ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!ๆๆๆๆๆๆๆ......
ในเวลาต่อมาไม่นานนัก...ชายที่กำลังรอหญิงสาว ก็พบกับกระเป๋าของหล่อนลอยตามกระแสน้ำมา
มันอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เจ้าหล่อนสามารถทำได้ ... ถึงแม้ลมหายใจของเจ้าหล่อนจะหมดแล้ว
ชายคนนั้นหยิบกระเป๋าแล้วกลับไปที่รถของตน
ระหว่างทาง ... ชายคนนั้นหยิบเอากล้องวิดิโอมาเปิดดู
ดูว่าข้างในเกาหลีเหนือ .... มีสาวน้อยคนหนึ่งซึ่งก็เป็นหนึ่งในสองล้านคนที่ต้องตายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แล้วเรื่องก็ผ่านไปเป็นตัวอักษรครับ .... อย่างที่ผมว่าไงครับ .... เหมือนเสียงลมพัดใบไม้หวิว
แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเสียแต่อย่างใด
ผ
มเดินไปเปิดตู้เย็น .... หยิบเหยือกน้ำออกมา ... บรรจงรินมันลงบนแก้ว ...
ค่อยดื่มด่ำกับน้ำอันใสสะอาดและบริสุทธ์ ....
เพราะว่าคนอย่างหล่อนคงไม่เคยได้ดื่มน้ำที่ชุ่มช่ำขนาดนี้ก็เป็นได้
ชีวิตเราไม่ได้ดีขึ้นหรอกครับเมื่อเราได้รับรู้
ชีวิตเรามันดีอยู่แล้วต่างหาก..................
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น